คุณเคยรู้สึกกังวลเมื่อต้องเข้าร่วมงานสังคมหรืองานเน็ตเวิร์คกิ้งกันบ้างมั้ย หลายคนมักคิดว่า คนประเภท Extrovert มีความสามารถในการเป็นผู้นำและสร้างเครือข่ายได้ดีกว่า แต่ความคิดนี้อาจไม่ถูกต้องเสมอไป
.
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review พบว่า คนเก็บตัว (Introvert) สามารถเป็นผู้นำที่ดีกว่าในหลายสถานการณ์ ผู้นำที่เป็นคนเก็บตัวมักประสบความสำเร็จในการทำงานกับพนักงานที่กระตือรือร้นและกล้าแสดงความคิดเห็น เพราะพวกเขาเต็มใจรับฟังและพิจารณาไอเดียของทีม
.
Ryan Paugh ผู้ร่วมก่อตั้ง The Community Company และผู้เขียนหนังสือ “Superconnector: Stop Networking and Start Building Business Relationships That Matter” ได้แนะนำวิธีที่คนเก็บตัวสามารถใช้จุดแข็งของตัวเองในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องฝืนตัวเอง มีทั้งหมด 4 ข้อ คือ
.
1. นิยาม “เน็ตเวิร์คกิ้ง” ใหม่ให้เข้ากับตัวคุณ
ทิ้งภาพจำ คนที่ชอบแจกนามบัตรไปทั่วงาน
.
เมื่อพูดถึงดังที่มีอิทธิพล หลายคนมักนึกถึงคนประเภทที่เสียงดัง มีคนล้อมรอบ และชอบแจกนามบัตรไปทั่ว แต่คนเก็บตัวมักมีความเห็นอกเห็นใจและโฟกัสกับความต้องการของผู้อื่นมากกว่า ซึ่งควรเป็นจุดประสงค์หลักของการคอนเนคกับคนอื่น
.
Paugh แนะนำให้ทั้งคนทั้ง 2 ประเภท หยุดใช้คำว่า เน็ตเวิร์คกิ้ง หรือหาคอนเนคชั่น” และเริ่มใช้คำว่า “การสร้างความสัมพันธ์” แทน สำหรับคนเก็บตัวโดยเฉพาะ คำนี้โน้มเอียงไปทางจุดแข็งของคุณ และมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่แท้จริงมากกว่าการเชื่อมโยงแบบผิวเผิน
.
2. ไม่ต้องพยายามทักทายทุกคนในงาน
มองหาคนที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน แทนที่จะพยายามพบคนให้มากที่สุด
.
Susan Cain ผู้เขียนหนังสือ “Quiet: The Power of Introverts in a World That Can’t Stop Talking”
แนะนำว่าก่อนไปงาน ควรศึกษาเล็กน้อยเกี่ยวกับคนที่จะมาร่วมงาน เพราะผู้คนมักทำให้คนเก็บตัวหมดพลัง พวกเขาจึงใช้เวลาในงานน้อยกว่าและต้องทำให้ทุกการสนทนามีคุณค่า
.
Cain บอกว่า “ผมมักแนะนำให้ผู้คนมองหาสิ่งที่ผมเรียกว่า ‘จิตวิญญาณที่ใกล้เคียงกัน’ คนที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อได้จริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลทางวิชาชีพ” คนที่น่าสนใจมักไม่ใช่คนที่อยู่ตรงกลางห้อง ดังนั้นควรมองหาคนที่ยืนอยู่ริมห้อง ไม่ใช่คนที่พยายามดันตัวเองเข้าไปในวงสนทนา
.
3. โฟกัสที่การถามคำถามที่ดี
ที่กระตุ้นให้คู่สนทนาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
.
คน Extrovert มักตื่นเต้นกับการแบ่งปันความคิดจนบางครั้งลืมถามเกี่ยวกับอีกฝ่าย ส่วนคนเก็บตัวชอบถามคำถาม แต่ไม่ใช่ทุกคำถามจะมีประสิทธิภาพเท่ากัน คำถามว่า “คุณทำงานอะไร?” หรือ “คุณมาจากไหน?” อาจไม่ได้กระตุ้นการสนทนาที่ดี
.
Paugh ชอบถามว่า มีอะไรที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ คำถามนี้ช่วยให้ได้ข้อมูลที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ คุณอาจมีคำถามประจำตัวของคุณเอง แต่เทคนิคคือการถามบางอย่างที่ส่งเสริมให้ผู้คนเปิดเผยตัวเองนอกเหนือจากการพูดคุยระดับผิวเผิน
.
อย่างไรก็ตาม Cain เตือนว่าคน Introvert อาจทำเกินพรสวรรค์ ธรรมชาติในการถามคำถามเจาะลึก “ผู้คนจะรู้สึกอึดอัดหากคุณถามแต่ไม่เสนอข้อมูลอะไรเลย” เธอกล่าว ดังนั้นควรพยายามเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองเพื่อให้เกิดความสมดุลที่ดี
.
4. เรียนรู้วิธีฟังในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้พูด
และมองหาโอกาสที่จะช่วยเหลือ
.
การถามคำถามที่ดีเป็นเพียงองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง คุณยังต้องตั้งใจฟังคำตอบด้วย และมันมักจะอยู่ในแต่ละคำที่พวกเขาพูดออกมา
.
บางครั้งคนที่คุณกำลังคุยด้วยไม่รู้ว่าคุณสามารถช่วยพวกเขาได้ และคุณต้องค้นหาด้วยตัวเอง เมื่อคุณกระตุ้นให้พวกเขาพูดถึงความหลงใหลและความสนใจ คุณสามารถเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าความต้องการของพวกเขาอาจตัดกับความสามารถและการเชื่อมต่อของคุณอย่างไร นั่นคือจุดที่คอนเนคชันจะเกิดขึ้น
.
การนำคุณสมบัติเด่นของคนเก็บตัวมาใช้ ทั้งการฟังอย่างตั้งใจ การเห็นอกเห็นใจ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง สามารถช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเน็ตเวิร์คกิ้ง มากกว่าการพยายามเลียนแบบพฤติกรรมของคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเรา
.
เพียงแค่เปลี่ยนมุมมอง ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ แล้วคุณก็จะค้นพบว่าความเงียบและการฟังอย่างตั้งใจของคุณอาจเป็นทักษะที่มีค่ามากที่สุดวง
.
.